วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

"มหกรรมนวดสร้างสถิติ ลดรอบเอวได้มากที่สุดในโลก"

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.ย. ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บริษัท เอเชียนไลฟ์ จำกัด ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดงาน "มหกรรมนวดสร้างสถิติ ลดรอบเอวได้มากที่สุดในโลก" ด้วยครีมสูตรสมุนไพรสลิมเชฟ ของนักวิทยาศาสตร์ไทย เพื่อส่งบันทึกลง "Guiness Book of World Records" เพื่อแสดงศักยภาพของคนไทยในด้านงานวิจัยและพัฒนาสารสกัดจากธรรมชาติ เผยแพร่ให้ประชาชนทั่วโลกได้ทราบถึงคุณประโยชน์ของสมุนไพร รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาสินค้าไทยสู่ระดับโลก

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา กิจกรรมดังกล่าวได้มีการจัดเพื่อเก็บสถิติการนวดจาก 4 ภาคทั่วประเทศ ประกอบด้วย ภาคกลาง 12 แห่ง ภาคตะวันออก 3 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 แห่ง และภาคใต้อีก 8 แห่ง ซึ่งในแต่ละพื้นที่ได้ทำการนวดต่อสาธารณชนเป็นจำนวนมาก โดยมีบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิในจังหวัดหรือเขตนั้นๆ เป็นสักขีพยานและยืนยันผลการนวด พร้อมทั้งได้มีการบันทึกวิดีโอเป็นข้อมูลอีกด้วย

สำหรับผลการนวดครั้งที่ผ่านมา ได้ผลสรุปว่า ครีม 1 หลอด สามารถลดรอบเอวสูงสุดเฉลี่ย 5 นิ้ว และต่ำสุด 1.5 นิ้ว



สำหรับในครั้งนี้ ถือเป็นวันสำคัญในการสร้างสถิติสูงสุดในโลกครั้งแรก เพื่อลงบันทึกกินเนสส์บุ๊ก ลดรอบเอวภายใน 1 ชั่วโมง พร้อมกันมากที่สุดถึง 30 เตียง โดยการใช้ครีมลดไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังสูตรสลิมเชฟ ที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ เช่น พริก ขิง เป็นต้น โดยเป็นการพัฒนามาจากงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ไทย สถาบันเอเชียนนูทราซูติคอล (ANC) ภายในงานมีนักวิชาการ ประชาชน และบุคคลที่เป็นที่ยอมรับของสาธารณชนร่วมเป็นสักขีพยาน ประกอบด้วย คุณหญิงชัชนี จาติกวนิช เป็นสักขีพยานลงนามตามกฎกินเนสส์บุ๊ก, น.พ.แสงชัย แก้วกิติชัย ผู้กำหนดและตรวจสอบวิธีการวัดรอบเอว และนายโคลิน คอทเทอรีล ผู้ประสานงานจากกินเนสส์บุ๊กออฟเวิร์ลด์เร็กคอร์ด เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกณฑ์ในการคัดเลือกผู้นวด และการเตรียมอาสาสมัครนวดลดรอบเอว ต้องเป็น เพศหญิงอายุ 20-40 ปี มีรอบเอว 32-35 นิ้วขึ้นไป มีรูปร่างและน้ำหนักตัวใกล้เคียงกับผู้นวด โดยต้องไม่เป็นโรคหัวใจ โรคไต แผลในช่องท้อง ที่สำคัญต้องไม่เคยผ่านการลดความอ้วนมาก่อนหรือไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติลดรอบเอวของผลิตภัณฑ์อื่นมาก่อน

ต่อมาผู้เข้ารับการนวดลดรอบเอวจำนวน 30 คน ได้ไปรายงานตัวต่อกรรมการ พร้อมทั้งให้กรรมการวัดรอบเอวของแต่ละคน ใช้เวลาประมาณคนละ 2 นาที เพื่อวัดเปรียบเทียบและบันทึกขนาดรอบเอวของอาสาสมัครก่อนการนวดลดน้ำหนักและภายหลังการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ ทางผู้จัดงานยังได้มีการทดลองเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น โดยใช้ผลิตภัณฑ์ต่างชนิด มานวดลดรอบเอวอาสาสมัครจำนวน 2 คน เพื่อทดลองเปรียบเทียบผลด้วย

จนกระทั่งการวัดรอบเอวเสร็จสิ้นลง มหกรรมการนวดครั้งยิ่งใหญ่ก็เริ่มขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ผู้นวด ซึ่งประจำอยู่เตียงละ 2 คน ได้นำครีมลดรอบเอวดังกล่าวมาละเลงตรงหน้าท้องของอาสาสมัคร จากนั้นลูบไล้ไปทั่วบริเวณหน้าท้องและช่วงเอวด้านข้างทั้งสองแห่ง ทาถูครีมไปรอบทำซ้ำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังจนถึงชั้นไขมัน โดยการนวดดังกล่าวต้องผลัดเปลี่ยนผู้นวดสลับกันไป 2 คน เนื่องจากการนวดต้องใช้พลังงานมากพอสมควร จนครบตามเวลาที่กำหนดไว้ 1 ชั่วโมง ทางผู้นวดจึงหยุดมือและนำอาสาสมัครไปวัดรอบเอวหลังการนวดต่อหน้าคณะกรรมการ สักขีพยาน

โดยได้ผลสรุปว่า ครีม 1 หลอด ใช้นวดลดรอบเอว 1 ชั่วโมง สามารถลดได้เฉลี่ย 2.575 นิ้ว สถิติสูงสุดลดได้ 3.5 นิ้ว และต่ำสุด 1.5 ขณะเดียวกัน ครีมทดลองเปรียบเทียบกับครีมสูตรสลิมเชฟ ผลปรากฏว่าไม่สามารถลดรอบเอวได้เลย

รายละเอียดเพิ่มเติม


"ผลส้มแขก" ต้นตำรับของ..TrimOne สูตร "SlimSafe"

ส้มแขก( Garcenia Cambogia) เป็นพืชพื้นบ้านดั้งเดิมของไทย ที่นิยมใช้ในการประกอบอาหารมาเป็นเวลานานแล้ว ลักษณะของผลส้มแขก จะคล้ายฟักทองขนาดเล็ก มีมากทางภาคใต้ ซึ่งมีการนำมาปรุงเป็นอาหารโดย ใช้เพิ่มรสเปรี้ยวให้อาหาร(ดูรูปประกอบ)

ได้มีการค้นคว้าพบว่า ผลส้มแขก มีสาร HCA หรือ Hydroxy-citric acid อยู่เป็นจำนวนมาก โดยพบว่า HCA นี้ มีคุณสมบัติในการยับยั้งการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกาย และลดความอยากอาหารได้ จึงได้มีบางคนนำผลส้มแขกมาใช้ในการควบคุมน้ำหนัก [ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดส้มแขก...]




กลไกการออกฤทธิ์ของ HCA จะออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ ATP Citrate Lyase ในวงจร Kreb's cycle (วงจรการย่อยสลายกลูโคส ของเซลร่างกาย) ทำให้ยับยั้งการนำน้ำตาล จากอาหารประเภท แป้ง ข้าว และน้ำตาล ไม่ให้เปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมตามร่างกาย แต่จะนำไปใช้เป็นพลังงานของร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่นไม่อ่อนเพลีย และเมื่อในกระแสเลือดไม่ขาดน้ำตาล ก็จะทำให้ความรู้สึกหิวอาหารลดลง ไปด้วย ขณะเดียวกัน ก็จะนำไปสะสมเป็นพลังงานสำรองในรูปของไกลโคเจนที่ตับ ทำให้ร่างกายรับรู้ว่ามีพลังงานสำรองเพียงพอ ทำให้ไม่รู้สึกหิวมาก นอกจากนี้ ยังมีผลไปกระตุ้น ให้มีการดึงเอาไขมันที่สะสมออกมาใช้เป็นพลังงานทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ลดลงซึ่งจะมีผลทำให้รูปร่างดีขึ้น


จากการนำสารสกัดจากผลส้มแขกมารับประทานเพื่อให้น้ำหนักลดลง พบว่าน้ำหนักตัวอาจจะไม่ลดลงเร็วมากนัก ประมาณ 1 กิโล ภายใน 3-4 อาทิตย์ แต่รูปร่างจะดีขึ้น เอว(พุง) ลดลง ความอึดอัดลดน้อยลง เนื่องจากไขมันมีน้ำหนักเบากว่ากล้ามเนื้อ ( แต่ถ้าร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อก็จะเกิดการอ่อนแอและโรคแทรกซ้อนได้ง่าย)

วิธีการ รับประทานสารสกัดส้มแขก

แนะนำให้กินขนาด 600 mgครั้งละ 2 เม็ด (ถ้า 300 mg ใช้มื้อละ สี่เม็ด) วันละ 3 เวลา ก่อนอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมกับดื่มน้ำตามหลัง ประมานหนึ่งแก้ว ซึ่งจะทำยาให้ดูดซึมได้ดีที่สุด แต่ขณะที่ยาแตกตัวในกระเพาะอาหารบางคนอาจะได้กลิ่นของส้มแขกซึ่งมีกลิ่นหอมคล้ายขนมปังปิ้ง ถ้าไม่ชอบหรือ มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ก็แนะนำให้เปลี่ยนมากินหลังอาหารหรือพร้อมกับอาหารได้ แต่การดูดซึมจะลดน้อยกว่าการกินก่อนอาหารเล็กน้อย ในผู้ที่อ้วนมากหรือกินจุมากอาจเพิ่มปริมาณ เป็นวันละ 8-10 เม็ด (600 mg) ต่อวันได้ เมื่อรูปร่างหรือน้ำหนักตัวลดลงจนเป็นที่พอใจก็ค่อยๆลดปริมาณ ของส้มแขก ลงจนกระทั่งไม่ต้องใช้ และหลังจากหยุดใช้จะไม่มีผลในการหิวมากขึ้น หรือ อ้วนขึ้นกลับมา และยังพบว่านิสัยกินจุในบางคนจะลดลงไปด้วย


ปัจจุบัน ส้มแขก ได้มีการทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ลดน้ำหนัก ในหลายรูปแบบ เช่น ชนิดเม็ด แคบซูล และผง และมีวางจำหน่ายทั่วไป ขนาด 300 และ 600 มก.ซึ่งจะมี เนื้อ garcinia จำนวนประมาณ 250-500 mg และให้ปริมาณ HCA ประมาณ 60-70% ซึ่งต่างจาก ผลส้มแขกธรรมดาที่บดแห้งบรรจุแคปซูลที่ไม่ได้ผ่านการสกัด ซึ่งจะได้ปริมาณของ HCA เพียง 30% ( ปัจจุบันมี สารสกัดจากส้มแขกที่เป็นซองใช้ชงน้ำดื่ม 1ซองมี garcinia ประมาณ 1000 mg ใช้ครั้งละซอง วันละสามครั้ง แต่ราคาค่อนข้างแพง คือ ซองละประมาณ สี่สิบบาท เมือเทียบกับชนิด แคปซูล 600 mg ซึ่งราคาประมาณ สิบบาท) แต่จะเลือกซื้อยี่ห้อไหน ไม่สำคัญขอให้ได้รับการรับรอง จาก อย.และมีเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน และเปรียบเทียบขนาดกับราคาให้คุ้มที่สุด


ขณะที่ใช้สารสกัดจากส้มแขก คุณสามารถ รับประทานอาหารได้ตามสมควร แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันลงบ้าง และเมื่อ ความรู้สึกหิวน้อยลงจากการที่ร่างกายได้รับพลังงานอย่างเพียงพอแล้วจะทำให้ นิสัยการกินอาหารจุๆ จำนวนมากก็จะค่อยๆ ลดลง และไม่กลับมาอ้วนใหม่


ผลส้มแขก จนถึงบัดนี้ ยังไม่พบผลข้างเคียงหรืออันตรายที่เกิดขึ้นจากการรับประทานตามขนาดที่แนะนำ แต่ไม่ว่าจะลดน้ำหนัก ด้วยวิธีใด การปรับเปลี่ยน พฤติกรรมในการกินอาหาร ควบคู่กับการออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ได้ผลเร็วและปลอดภัยกว่ายาใดๆ ทั้งหมด [ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดส้มแขก...]


ปริญญาใบที่สอง 'ปริญญาวิชาชีวิต'

ปริญญาสองใบ...น่าอ่าน

ที่เมืองไทยปีที่แล้วมีข่าวเกรียวกราวมาก
คือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมาก
เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน
ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร
มาเรียนที่อเมริกา
เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส
ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุดแม้กระทั้งล้างจาน
ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดู
ว่าสะอาดจริงมั้ย
กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลย
ต้องให้ดีที่สุด
เวลาแกไปเสนองานอะไรต่าง ๆ เขียนไว้สามแผน
แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ
แกเสนอแผนที่สอง
แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สาม
ใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย แกมีบ้าน
มีรถ มีลูก มีภรรยา มีธุรกิจ
มีชื่อเสียงทุกอย่าง แกมีทุกอย่าง
วันหนึ่งแกพักผ่อน
หลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย ลุกเมียไปขอพบ
บอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิต
วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่อง ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุ๊บลงไป
ภรรยาพาเข้าโรงบาล ตรวจพบมะเร็ง
พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย จริง ๆ
เค้าก็เตือนตลอด
แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้
แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน บันทึกชีวิตแก
ก่อนจะเสียชีวิต แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว
แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่
กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก
ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า
พ่อผมเคยบอกว่าเกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ
ปริญญาใบที่หนึ่ง ' ปริญญาวิชาชีพ '

เราจะต้องทำมาหากินเป็นกินอิ่ม นอนอุ่น
พูดง่าย ๆ
ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้ อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง
แค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ แต่ ' ปริญญาวิชาชีวิต '
ปริญญาใบที่สอง ' ปริญญาวิชาชีวิต ' คือวิชาธรรมะ
สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง

ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้
แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง
ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ
แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก เพราะอะไร
เพราะทำงานจนป่วยตาย
ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง
บ้าน รถ มอบมันให้กับลูกและภรรยา
แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง
ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา
สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ครั้งนี้
สิ่งที่ว่านี้คือผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมีย
เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย
นี่คือปริญญาวิชาชีวิต
ธรรมะเราจะต้องมี ถ้าเราไม่มีธรรมะ
เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเอง
ที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี
ดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว
อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวันนะ
แต่ละวันควรจะมี ให้ดูแลตัวเอง
ดูจิต ดูใจตัวเอง ว่าเราเอ๊ะมันทุกข์
มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า
แบกเรื่องโน้นเรื่องนี้ เกินไปหรือเปล่า
พยายามลดลงในแต่ละวัน
เพื่อที่ว่าอะไร
เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิต
หนึ่งปริญญาวิชาชีพ
เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง
มีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่
แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สอง
คือวิชาธรรมะ
สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง
ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือนร้อนเกินไป
ทำอะไรให้พอดี พอดีอยู่ดีมีสุข
อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว อยากพักให้ได้พัก
อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ
ลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง
อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด
และมารู้สึกตัวอีกทำจนล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี เพราะอะไร
เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา
เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเจ้า
ว่าอะไรคือสิ่งสูงค่าที่สุด บางคนก็ตอบ เงิน
บางคนก็ตอบเพชร บางคนก็ตอบ ทอง
บางคนก็ตอบอำนาจ บางคนก็ตอบ ราชบัลลังก์
พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือสุขภาพและชีวิต
สุขภาพก็คือ การที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
คนที่สุขภาพดี ดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อยนะ
และก็ชีวิตของเรา

ขอบคุณข้อมูล..จากฟอร์เวิร์ดอีเมล์

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

นักวิจัยไทย พบ "แคปซูล" ผลไม้รวม ช่วยยืดอายุ


พลิกประวัติศาสตร์วงการแพทย์อีกครั้ง เมื่อนักวิจัยไทยสามารถพัฒนาและวิจัยทางวิทยาศาสตร์นอกกรอบภายใต้ชื่อที่ว่า "ปฏิบัติการ BIM" จนได้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรเด็ดสร้างและปรับความสมดุล และป้องกันสิ่งแปลกปลอมอันก่อให้เกิดโรคร่ายได้อย่างเหลือเชื่อ พร้อมอ้าแขนรับพันธมิตรส่งออกเป็นสินค้าซ่อมสุขภาพให้กับคนทั้งโลก

หนึ่งในนักวิจัยไอเดียเทพคือ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กล่าวถึงเบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ว่านับเป็นการรวมพลังสติปัญญาครั้งยิ่งใหญ่เพราะมีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาวิชาการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกันในชื่อที่ว่า OPERATION BIM ซึ่ง BIM ก็คือ Balancing Immune หรือการสร้างความสมดุลให้ร่างกาย ที่จะทำให้คนมีความสุขมากขึ้น สุขภาพดียิ่งขึ้น อายุยืนมากขึ้น ด้วยการปรับที่ว่านี้จะช่วยป้องกันสารแปลกปลอมจากภายนอกที่เข้ามาทำลายสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคร้ายสารพัดทั้งมะเร็งและภูมิแพ้

การปรับความสมดุลนี้จะเป็นภูมิบำบัดอย่างดี ช่วยกระตุ้นการหลั่ง Interleukin 2 ที่เป็นโมเลกุลเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มากขึ้นอย่างมหัศจรรย์ แต่ไม่มากจนเกิดผลข้างเคียงให้ร่างกายหลั่ง Interleukin 1 ที่ทำให้ร่างกายเกิดภูมิแพ้ ความสามารถที่จะเพิ่ม Interleukin 2 และลด Interleukin 1 เกิดขึ้นได้จากการรับประทานผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ สูตร BIM อันเป็นส่วนผสมของผลไม้และธัญพืชหลายชนิดมาผสมกับสาร GM-1 จากเปลือกมังคุด

"เราได้ทำการทดสอบจนแน่ใจจึงได้จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นแคปซูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และได้จดทะเบียนสิทธิบัตรเอาไว้แล้ว" ศ.ดร.พิเชษฐ์กล่าว นอกจากนี้คณะนักวิจัยได้ใช้ความรู้จากการวิจัยครั้งนี้ทำการผลิตน้ำมังคุดสกัดสูตรเข้มข้นออกมาด้วย ซึ่งจะช่วยในการปรับสมดุลของร่างกายได้ไม่แพ้ BIM และได้จดสิทธิบัตรไว้แล้วเช่นกัน

"ขณะนี้ได้มีการระดมทุนจากผู้สนใจทั้งในภาครัฐและเอกชนให้เป็นผลิตภัณฑ์เดียวของไทยที่ได้ผลเช่นนี้ และใช้ผลิตภัณฑ์ไทยผลไม้ไทยออกไปจำหน่ายให้กับประชากรโลกต่อไป เพื่อให้โลกรู้ว่าเมืองไทยก็ไม่เป็นสองรองใคร ในโลกวิทยาการ" [พบแคปซูล GM-1 ที่นี่...]



มหัศจรรย์..สารสกัดจากมังคุด

ณ ปัจจุบัน เปลือกมังคุดก็สามารถนำมารับประทานได้ โดยนำมาปั่นทำเป็นน้ำผลไม้ และมีสารอาหารกว่า 100 ชนิด และสีม่วงแดงของเปลือกมังคุด มีสาร แซนโทน (xanthones) สารซานโทส มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

สารสกัดจากมังคุด มีคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพหลากหลายอย่างด้วยกัน ผลมีเปลือกนอกค่อนข้างแข็ง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร เนื้อในมีสีขาวฉ่ำน้ำ เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร อาจมีเมล็ดอยู่ในเนื้อผลได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของผล จำนวนกลีบของเนื้อจะเท่ากับจำนวนกลีบดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือก

ผลมังคุดมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเหมือนสตรอว์เบอรี่ที่ยังไม่สุกหรือส้มที่มีรสหวาน บางท่านรับประทานเมล็ดด้วย


ประโยชน์ของสารแซนโทน จากเปลือกมังคุด

  1. ลดอาการอักเสบ และรักษาแผลพุพองต่างๆ
  2. ป้องกันโรคหัวใจ
  3. ลดความดันโลหิต (antihypertensive) และลดระดับคอเรสเตอรอล
  4. บำรุงสภาพภายในกระเพาะอาหาร
  5. ช่วยให้ทางเดินปัสสาวะมีสภาวะที่ดีขึ้น
  6. เพิ่มพูนสติปัญญา
  7. ต่อต้านและป้องกันโรคมะเร็ง
  8. ต่อต้านและป้องกันโรคภูมิแพ้ (allergies)
  9. ต่อต้านและป้องกันการติดเชื้อรา, แบคทีเรียบางชนิด, เชื้อไวรัส
  10. เพิ่มพลังงานและสร้างความกระปรี้กระเปร่าต่อต้าน ป้องกันโรคซึมเศร้า
  11. บำรุงผิวพรรณ
  12. รักษาอาการปากแตกหรือปากเป็นแผล
  13. ช่วยป้องกันโรคนิ่วในไต
  14. ช่วยชะลอการร่วงโรยแห่งวัย (aging)
  15. ช่วยในการย่อยอาหาร